ผักกาดขาว

ลักษณะทั่วไปของผักกาดขาว
ผักกาดขาว เป็นพืชผักที่มีอายุ 2 ปี แต่ระบบการปลูกในปัจจุบันเป็นการปลูกแบบพืชปีเดียว เป็นพืชที่มีระบบรากแก้ว และมีรากแขนงแผ่กระจายจำนวนมาก มีความสูงได้ 20-50 เซนติเมตร แต่เป็นพืชที่ไม่มีลำต้นแต่จะมีใบเรียงเวียนซ้อนกันเป็นชั้นๆ เป็นกระจุกแบบดอกกุหลาบ ใบมีขนาดยาว 20-90 เซนติเมตร กว้าง 15-35 เซนติเมตร ใบรอบนอกมีลักษะรูปไข่ หรือ รูปวงรีสีเขียวเข้ม มีก้านเป็นแผ่นปีกยื่นไปทางข้าง ส่วนใบที่ซ้อนกันเป็นปลีมีสีเขียวปนขาว แผ่นใบกว้างจนเกือบกลม ดอกออกเป็นช่อซึ่งจะประกอบด้วยช่อแขนงที่มีช่อดอกแบบกระจายเป็นจำนวนมาก ส่วนช่อดอกจะยาวประมาณ 20-60 เซนติเมตร ดอกมีสีเหลืองสด มี 4 กลีบ มีกลีบเลี้ยง 4 กลีบ สีเขียวปนเหลือง ผงเป็นลำ หรือ ผลแตกแบบผักกาดกว้าง 3-5 มิลลิเมตร ยาว 7 เซนติเมตร มีสีเขียวมีเมล็ดข้างใน 20-30 เมล็ด ซึ่งเมล็ดลักษณะกลมสีเทาหรือสีดำ มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 1-2 มิลลิเมตร

ประโยชน์และสรรพคุณผักกาดขาว
- ใช้แก้หวัด
- แก้ท้องผูก
- ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน
- บำรุงร่างกาย
- บำรุงกำลัง
- ช่วยเจริญอาหาร
- แก้กระหาย
- ช่วยลดความดันโลหิต
- ช่วยเสริมสร้างหลอดเลือด
- ช่วยขับน้ำนม
- แก้โรคตาบอดกลางคืน
- ช่วยขับของเสียออกจากร่างกาย
- แก้เจ็บคอ
- ช่วยย่อยอาหาร
- แก้ท้องเสีย
- ช่วยขับปัสสาวะ
- แก้อาเจียนเป็นเลือด
- แก้วบวมน้ำ
- แก้แผลในปาก
- แก้ไอ
- ช่วยขับเสมหะ

ข้อแนะนำและข้อควรระวัง
- สำหรับผู้ที่มีอาการกระเพาะอาหารเย็น ตามตำราแพทย์แผนจีน คือ มีอาการแน่นท้อง อาหารไม่ย่อย อาเจียน ไม่ควรกินผักกาดขาวมาก เพราะอาจจะทำให้อาเจียนมีน้ำลายเป็นฟอง
- ส่วนตำรายาไทยระบุว่าสำหรับผู้ที่มีอาการม้ามพร่อง คือ มีอาการท้องอืดท้องเฟ้อ แน่นท้อง อาหารไม่ย่อย มีแก๊สในกระเพาะอาหารเยอะ ไม่ควรรับประทานผักกาดขาวในปริมาณมากเกินไป
- ส่วนการรับประทานหัวผักกาดขาว ดิบจะมีประโยชน์มากกว่ารับประทานแบบปรุงสุก เนื่องจากวิตามินซี และเอนไซม์ (Amylase) ในหัวผักกาดขาวจะไม่ทนต่อความร้อนมากนัก และจะถูกทำลายที่อุณหภูมิ 70 องศาเซลเซียส
- นอกจากนี้ก่อนนำผักกาดขาวไปรับประทาน ควรล้างผักให้สะอาดโดยเปิดน้ำให้ไหลผ่านผักเพื่อชะล้างเศษดินหรือสิ่งปนเปื้อนให้ออกไปจนหมด และลดสารพิษตกค้างของสารเคมีกำจัดศัตรูพืชที่อยู่ในผักอีกด้วย
ใส่ความเห็น