ดองดึง


ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ไม้เถาล้มลุกอายุหลายปี ยาวได้ถึง 5 เมตร มีเหง้าใต้ดินทรงกระบอกโค้ง ใบเดี่ยวเรียงสลับ หรือเรียงเป็นวงรอบข้อ 1-3 ใบรูปขอบขนานแกมรูปใบหอก ยาว 5-15 ซม. ปลายใบเรียวแหลมงอเป็นมือเกาะ ไร้ก้าน ดอกเดี่ยว ออกตามซอกใบใกล้ปลายกิ่ง ดอกใหญ่ ยาว 6-10 ซม. ก้านดอกยาวประมาณ 5 ซม. ดอกมีสีแดงด้านบน หรือตามขอบกลีบ มีสีเหลืองด้านล่าง บางครั้งมีสีเหลืองซีด อมเขียว หรือสีแดงทั้งดอก เกศรเพศผู้มี 6 อัน ก้านยาว 3-5 ซม. อับเรณูยาวประมาณ 1 ซม. ก้านเกสรเพศเมียยาว 0.3-0.7 ซม. แยกเป็น 3 แฉก ผลรูปขอบขนาน ยาวประมาณ 5-10 ซม. แตกตามรอยประสาน เมล็ดกลมสีแดงส้มจำนวนมาก

สรรพคุณ
- ราก, หัวดองดึง – แก้โรคเรื้อน คุดทะราด บาดแผล และขับผายลม รับประทานแก้ลมพรรดึก แก้เสมหะ แก้ลมจับโปง ลมเข้าข้อ (รูมาติซั่ม) หัวเข่าปวดบวมได้ดี หัวใช้ต้มรับประทานแก้ท้องขึ้นอืดเฟ้อ แก้ลมจุกเสียด
– ขับพยาธิ สำหรับสัตว์พาหนะ
– ฝนทาแก้พิษงู พิษตะขาบ แมลงป่อง
– ทาแก้โรคผิวหนัง
– มีสารเมททิลโคลซิซี - แป้งที่ได้จากหัว, ราก
– แก้โรคหนองใน
– ใช้สารสะกัดสำหรับเปลี่ยนแปลงพันธุ์พืช
ข้อแนะนำและข้อควรระวัง ดองดึง
หัวดองดึงมีสาร colchicine ซึ่งมีความเป็นพิษสูงมาก ดังนั้นจึงไม่ควรนำดองดึงมาใช้เป็นยาสมุนไพรด้วยตนเอง เพราะในการนำดองดึงมาใช้ต้องเป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญสูงที่รู้ทั้งวิธีการปรุงยา และรู้ขนาดในการใช้อย่างแท้จริงเท่านั้น สำหรับอาการการเกิดพิษที่แสดงออกมาหลังรับประทานหัวดองดึง ที่ควรรู้ไว้เบื้องต้นมีดังนี้ อาการเกิดพิษเริ่มจาก คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเดิน ปวดท้องหลังจากรับประทานเข้าไปประมาณ 2-6 ชั่วโมง ต่อมาปาก และคอจะร้อนไหม้ กระหายน้ำ กลืนลำบาก การอาเจียนอาจจะรุนแรงมาก และไม่สามารถควบคุมอาการได้ ในกรณีที่เกิดอาการพิษอย่างเฉียบพลัน จะมีอาการท้องเดิน อาจจะถ่ายเป็นน้ำ และมีเลือดปนออกมาด้วย เนื่องจากมีการทำลายเส้นเลือดเกิดขึ้น ทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำ และเกลือแร่มาก อาจมีอาการหมดสติเกิดขึ้นได้ นอกจากนี้ ท่อไตก็ถูกทำลายเช่นกัน ทำให้ถ่ายปัสสาวะเป็นเลือด แต่ปริมาณปัสสาวะน้อย มีอาการจุกเสียดท้อง และปวดเบ่งปัสสาวะ กล้ามเนื้ออ่อนเปลี้ย และในที่สุดระบบประสาทส่วนกลางเป็นอัมพาตทำให้ตายได้ เนื่องจากหยุดหายใจ ซึ่งปกติจะเกิดขึ้นภายใน 1-2 วัน ดองดึง
ใส่ความเห็น